วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

Both - Either - Neither

จับจุด Both Either และ Neither

 


Both.....And

Both ไปกับ and หมายถึง ทั้งคู่ ตัวอย่างเช่น

Both Nadech and Mark are lovely. ณเดชน์กับหมากน่ารักทั้งคู่

หรือจะวาง both ไว้ลอยๆ ก็ได้ในกรณีที่ผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจกันอยู่แล้วว่าทั้งสองอย่างนั้นคืออะไร

เช่นในกรณีนี้

Both Nadech and Mark are lovely. I like both (of them). ณเดชน์กับหมากน่ารักทั้งคู่ ฉันชอบทั้งสองคน
จะใช้ both หรือ both of them (พวกเขาทั้งสองคน) ก็ได้

Either....Or

Either ไปกับ or หมายถึง หนึ่งในสองอย่าง ตัวอย่างเช่น

Someone is coming. It is either Nadech or Mark. มีคนกำลังจะมา ถ้าไม่ใช่ณเดชน์ก็หมาก
หรือจะวาง either ไว้ลอยๆ ก็ได้ในกรณีที่ผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจกันอยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร
เช่นในกรณีนี้

 Both Nadech and Mark are lovely. You can choose either (of them). ณเดชน์กับหมากน่ารักทั้งคู่ เธอจะเลือกใครสักคนหนึ่งก็ได้


Neither.....Nor

Neither ไปกับ nor หมายถึง ไม่ทั้งสอง

เช่น
       Neither Nadech nor Mark is good at dancing. ทั้งณเดชน์และหมากเต้นไม่เก่งสักคน


Note:

       1. เมื่อใช้ Neither แล้วไม่ต้องเติม not อีกเพราะ neither เองก็มีความหมายเป็นปฏิเสธอยู่แล้ว
       2. สังเกตว่าในประโยค neither....nor จะทำให้มีกลุ่มนามอยู่สองกลุ่ม คือ ที่อยู่หน้า nor กับหลัง nor คุณผู้อ่านต้องเลือกใช้กริยาตามประธานที่อยู่ใกล้กริยานั้นที่สุด นั่นคือตัวที่อยู่กลัง nor ได้แก่ Mark ซึ่งเป็นประธานเอกพจน์ หลักการนี้ใช้กับ either.....or เช่นเดียวกัน

                              Neither Nadech nor Mark is good at dancing.

       3. neither อาจวางไว้ลอยๆ ได้เช่นเดียวกับคำอื่นๆ อย่างในกรณีนี้ Both Nadech and Mark are lovely, but neither (of them) is good at dancing. ณเดชน์กับหมากน่ารักทั้งคู่ แต่ไม่มีใครเต้นได้ดี  เมื่อ neither แปลว่า ไม่ทั้งสอง จึงถือเสมือนเป็นนามเอกพจน์ ทำให้ประโยคนี้เลือกใช้ is แทนที่จะเป็น are
       4. คุณผู้อ่านยังอาจเห็น neither กับ either ในประโยค "ฉันก็ด้วย"
           ถ้ามีคนพูดว่า I don't smoke.
           ถ้าเราจะตอบว่า ฉันก็ไม่สูบบุหรี่ด้วย อย่างนี้จะใช้
           I don't either.
           Neither do I.

ที่มา// ดัดแปลงจากหนังสือ พิชิต Grammar ตัวแม่ โดยครูนุ้ย English

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Lose Lost Loss

Lose เป็นกริยาช่องที่  1 ใช้กับปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ

Lose แปลว่าทำหาย พ่ายแพ้
เช่น       I do not want lose you. ฉันไม่ต้องการจะเสียเธอไป
             We are going to lose in the battle. เรากำลังจะแพ้สงคราม


Lost  ลงด้วย t จะเป็นช่องที่ 2 และ 3 มีความหมายเดียวกัน
          I  lost my pen. ฉันทำปากกาหาย ใช้ lost ช่องที่ 2 เป็นอดีต
          I have just lost my pen. ฉันเพิ่งทำปากกาหาย (เดินไปก็งง ว่าว่างไว้ปากกาไว้ไหนแล้ว)
ใช้ have, has บวกกริยาช่องที่ 3 เป็น Present Perfect แสดงถึงการกระทำที่มีผลกระทบถึงปัจจุบัน
lost ยังแปลว่า สับสน สิ้นหวัง หลงทาง เมื่อใช้เป็น Adjective ขยายนามได้อีกด้วย
เช่น  I get lost.  get ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า  " ได้รับ" แต่ทำหน้าที่เหมือน Verb to be ใช้พูดถึงสภาพ
ของคำนาม
        I get lost. หรือ I am lost. แปลว่า  ฉันหลงทาง อีกความหมายหนึ่งแปลว่าฉันสับสน
เช่น I get lost without you. ฉันหลงทางเมื่อปราศจากเธอ


Loss  เป็นคำนาม แปลว่าความเสียหาย อย่างที่มักพูดกันว่า cut loss แปลว่าตัดความเสียหายหรือตัดขาดทุน เมื่อเป็นนามแสดงว่าสามารถเป็นประธานหรือกรรมของประโยคได้
          The loss is unbearable. ความเสียหายครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก (ประโยคนี้ วาง loss ไว้ในตำแหน่งของประธาน)

อีกตัวที่คล้ายกัน loose เพราะสะกดคล้ายกัน แต่ทว่ามี -o เพิ่มมาอีกตัว  ความหมายจึงเปลี่ยนไป แปลว่า " หลวม" คำนี้เป็น  Adjective เวลาเข้าประโยควางหลัง Verb to be ได้เลย


 ที่มา//หนังสือ พิชิต Grammar ตัวแม่ โดย ครูนุ้ย English